ประชุมเชิงปฏิบัติการ “พลังความรู้ พลังเครือข่ายชุมชนสถาบันวิชาการ”

ประชุมเชิงปฏิบัติการ “พลังความรู้ พลังเครือข่ายชุมชนสถาบันวิชาการ” Professional Learning Community (PLC) การใช้ประโยชน์จากระบบข้อมูลเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงพื้นที่ เมื่อวันเสาร์ ที่13 ธันวาคม 2568

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศรีสุนันท์ ประเสริฐสังข์ รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและยุทธศาสตร์การพัฒนาท้องถิ่น (หัวหน้าโครงการ) พร้อมด้วย อาจารย์ ดร.เจษฎ์บดินทร์ จิตต์โศภิตานนท์ หัวหน้าทีมกลาง (ข้อมูล) และอาจารย์ศศิกาญจน์ มุสิกวรรณวัฒน์ พร้อมด้วยนักวิจัยทีมโมเดลแก้จน 2 (OM 2) นักวิจัยโครงการพัฒนาและยกระดับสู่พื้นที่วิจัยยุทธศาสตร์เพื่อขจัดความยากจนและสร้างโอกาสทางสังคม จังหวัดร้อยเอ็ด ระยะที่ 3 ปีที่ 3 (บพท.) ได้เข้าร่วมร่วมเวทีประชุมเชิงปฏิบัติการ “พลังความรู้ พลังเครือข่ายชุมชนสถาบันวิชาการ” (PLC) ภาคอีสาน ในหัวข้อ: การใช้ประโยชน์จากระบบข้อมูลเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงพื้นที่

ณ มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ เขตพื้นที่ในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์

การประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อ เสริมสร้างศักยภาพการดำเนินงานของเครือข่ายมหาวิทยาลัยแก้จน โดยเน้นการสร้างสภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้แบบ บูรณาการข้ามศาสตร์ (Transdisciplinary Learning) ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์และเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของเครือข่ายชุมชนวิชาการ (PLC) ทั้งนี้ เพื่อนำไปสู่การพัฒนากระบวนการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงพื้นที่ให้มีความ เบ็ดเสร็จ แม่นยำ และมีความยั่งยืน

โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญในการ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากระบบข้อมูล และ กำหนดกรอบเป้าหมายและแผนงานเชิงกลยุทธ์ ในการขับเคลื่อนบทบาทของสถาบันวิชาการในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงพื้นที่ใน 3 มิติหลัก ได้แก่ 1) การใช้ประโยชน์ระบบข้อมูลเพื่อการจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติ 2) การใช้ประโยชน์ระบบข้อมูลเพื่อการส่งต่อความช่วยเหลือและการจัดสวัสดิการ และ 3) การใช้ประโยชน์ระบบข้อมูลเพื่อการจัดทำแผนยุทธศาสตร์เชิงนโยบาย ซึ่งมีการแบ่งกลุ่มย่อยเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เชิงลึกแบบชี้เป้าในแต่ละหัวข้อ อันจะนำไปสู่ความเข้าใจและแก้ไขได้ตรงจุดและแนวทางการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม ทั้งนี้ การผนึกกำลังทางปัญญาและการใช้ฐานข้อมูลเชิงประจักษ์อย่างแม่นยำ ดังกล่าว ถือเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางสังคมและส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในพื้นที่ชุมชนต่อไป